7 เมืองยุโรป สุดโรแมนติก จุดหมายของคู่รัก

เคยสงสัยกันหรือเปล่าว่าทำไมพอ Covid-19 เริ่มซาลงถึงมีแต่คนเช็คอินยุโรปกันรัวๆ ขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่เที่ยวที่ใครหลายคนอยากไปเยือนสักครั้งในชีวิต เพราะแต่ละเมืองในยุโรปนั้นนอกจากจะสวยงามตามท้องเรื่องแล้ว ยังแสนจะโรแมนติก บรรยากาศเหมาะกับคู่รักเป็นอย่างมาก ทำให้หลายคู่เลือกที่จะขอแต่งงานกันที่สถานที่สุดโรแมนติกที่นี่กัน ว่าแต่จะมีเมืองยุโรปไหนน่าไปบ้างนะ
7 เมืองยุโรป เมืองในฝันของหลายคู่ แลนด์มาร์คยอดนิยม ขอแต่งงานสุดโรแมนติก
สำหรับผู้หญิงแล้ว การขอแต่งงานเป็นเรื่องอยากถูกขอสักครั้งในชีวิต กับสถานที่สวยๆสุดโรแมนติกบอกเลยว่าเป็นความฝันของใครหลายคน ทำให้เมืองยุโรปนั้นขึ้นชื่อว่ามีคู่รักหลายคู่เลือกที่จะขอแต่งงานกับสถานที่ในแลนด์มาร์คต่างๆของเมืองนี้ นอกจากจะสวยแล้ว ยังโรแมนติกเกินคาดอีกด้วย เรามาดูกันว่าจะมี 7 สถานที่เมืองไหนบ้าง
1. Paris – France
ไม่พูดถึงเป็นไม่ได้อย่างหอไอเฟล ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เป็นสถานที่โด่งดังไปทั่วโลกใครไปเยือนปารีสเป็นต้องเก็บภาพความประทับใจถ่ายคู่กับหอไอเฟล และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่คู่รักนิยมขอแต่งงานกันมาก ทำให้สาวๆหลายคนตอบ say yes กันเป็นแถว อีกทั้งยังเป็นสถานที่ที่ถ่ายพรีเวดดิ้งที่สวยงามมาก ใครไปกรุงปารีสอย่าลืมไปเช็คอินอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่ห้ามพลาดกันนะคะ
2. Hallstatt – Austria
หมู่บ้านฮัลสตัทท์ เป็นเมืองริมทะเลสาบที่สวยที่สุดในโลก ณ ทะเลสาบฮัลสตัทท์ ประเทศออสเตรีย เป็นหมู่บ้านที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม โอบล้อมไปด้วยทะเลสาบและวิวทิวทัศน์ของภูเขาที่สูงสง่างาม จึงยกเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวของคู่รักชอบมาขอแต่งงานกัน และชื่นชมกับบรรยากาศที่สุดจะโรแมนติกของธรรมชาติ
3. Budapest – Hungary
อีกหนึ่งเมืองในยุโรปที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองสุดคลาสสิคแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความโรแมนติก ณ เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ที่ได้ฉายาว่าเป็นเมืองไข่มุกแห่งแม่น้ำดานูบ เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมแบบยุโรปโบราณ เหมือนหลุดออกมาจากเทพนิยาย จุดไฮไลท์อยู่ตรงสะพานข้ามแม่น้ำที่มีจุดให้นักท่องเที่ยวได้ล่องเรือชมวิวสุดโรแมนติก ถือได้ว่าคู่รักหลายคู่เลือกสถานที่นี้ในการขอแต่งงานกันเยอะมาก
4. Rothenburg ob der Tauber – Germany
Rothenburg ob der Tauber เป็นเมืองที่ขึ้นชื่อว่าเหมือนหลุดออกมาจากนิทานเลยในประเทศเยอรมัน เป็นเมืองที่อาคารมีสีสันสดใส ในปัจจุบันมีร้านขายสินค้าและร้านอาหารให้นักท่องเที่ยวที่แวะเวียนไปถ่ายรูปกันได้ทั้งวัน บรรยากาศโดยรอบชวนให้นึกถึงวัยเด็กของเทพนิยายที่มีรถม้าวิ่งสุดโรแมนติก นึกชวนให้คู่รักหลายคู่ชอบมาเดินกันเมืองนี้และขอแต่งงานกัน
5. Venice – Italy
อีกหนึ่งเมืองที่มีกลิ่นอายสุดโรแมนติกอย่างเมืองเวนิส ประเทศอิตาลี ทำให้คู่รักหลายคู่เลือกที่จะมาล่องเรือกอนโดลาชมเมืองตามซอกซอย ตึกรามบ้านช่อง และสถาปัตยกรรมต่างๆที่เป็นจุดไฮไลท์ที่ยังเป็นที่นิยมมาจนถึงทุกวันนี้ ทำให้คู่รักหลายคู่เลือกแลนด์มาร์คนี้ในการขอแต่งงาน และยังเป็นสถานที่สุดฮิตในการมาฮันนีมูน ได้สร้างความประทับใจให้กับคู่รักหลายต่อหลายคู่
6. Barcelona – Spain
เมืองบาร์เซโลน่าเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศสเปน นอกจากจะโด่งดังเรื่องทีมฟุตบอลระดับโลกแล้ว ในประเทศสเปนยังมีสถาปัตยกรรมโบราณที่ขึ้นชื่อไม่แพ้กัน อีกหนึ่งไฮไลท์ในเมืองบาร์เซโลน่าอย่างที่เที่ยว Casa Batllo บ้านของตระกูลบัตโล่ มีจุดให้นักท่องเที่ยวชมพระอาทิตย์ตก สุดโรแมนติกเหมาะกับคู่รักที่พามาชมเมืองบาร์เซโลน่า
7. Tromso – Norway
ตบท้ายด้วยเมืองที่อยู่กลางเกาะทะเลในเขตอาร์คติกเซอร์เคิลที่มีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่พากันมาชมพระอาทิตย์ตกตอนเที่ยงคืน บอกเลยว่าคู่รักคู่ไหนที่มาพากันสร้างบรรยากาศสุดโรแมนติกที่ลงตัวกันมากๆ บวกกับหิมะและแสงเหนือที่สร้างความประทับใจไม่รู้ลืม ใครที่มาเยือนยุโรปห้ามพลาดกับเมืองทรอมโซ ประเทศนอร์เวย์ที่ไม่ได้มีดีแค่แสงเหนือแน่นอน
การเตรียมตัวเที่ยวเมืองยุโรปหลังเปิดประเทศ
เชื่อว่าหลายคนหลังเปิดประเทศจากสถานการณ์ Covid-19 ที่ผ่านมา ทำให้ทุกคนอัดอั้นอยากจะไปเที่ยวกันใช่ไหม และเมืองยุโรปก็คงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ใครหลายคนอยากจะไปสักครั้งในชีวิต ซึ่งการเตรียมตัวที่จะเดินทางออกนอกประเทศสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรหลงลืมเลยคือเรื่องเอกสารเกี่ยวกับวัคซีนและมาตรการต่างๆของเมืองนั้นๆ อยากให้ทุกคนได้ศึกษาและทำความเข้าใจก่อนที่จะบินไปด้วยนะคะ