บิ๊กเบน
ปฏิเสธไม่ได้เลยค่ะว่าประเทศอังกฤษนั้นเรียกได้ว่าเป็นเมืองแห่งมรดกโลกอีกทั้งยังเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอีกมากมายหลายแห่งที่รอให้ทุกท่านได้ลองไปสัมผัสด฿ชูด้วยตัวเอง ซึ่งก็ไม่แปลกใจเลยค่ะว่าทำไมใครหลาย ๆ คนนั้นถึงสนใจที่อยากจะไปเที่ยวในประเทศนี้กันนักหนา และวันนี้บทความของเราก็จะพาทุกท่านไปชมบิ๊กเบน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เป็นมรดกโลกและตั้งอยู่ในกรุงลอนดอนประเทศอังกฤษนี้เอง จะมีสิ่งใดที่น่าสนใจและน่าไปสัมผัสบ้างนั้น เรามาดูไปพร้อม ๆ กันเลยดีกว่าค่ะ
บิ๊กเบน นาฬิกาเรือนยักษ์กลางกรุงลอนดอน
บิ๊กเบ็น ตั้งอยู่ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยที่นี่ก็เป็นที่ตั้งของนาฬิกาสี่ด้านที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก จนได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกอีกด้วย ซึ่งก็ทำให้มีผู้คนมากมายที่ต้องการไปชมสิ่งนี้ด้วยตาของตัวเอง เพราะแน่นอนค่ะว่าอะไรที่เป็นสิ่งสำคัญของโลกหรืออะไรที่เป็นที่สุดในโลกนั้นย่อเป็นสิ่งที่ผู้คนจะต้องให้ความสนใจมากเป็นพิเศษอยู่แล้ว และสถานที่แห่งนี้ก็เช่นเดียวกัน จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมจึงมีผู้ที่แห่แหนมาเยี่ยมชมหอนาฬิกาแห่งนี้มากมายขนาดนี้
โดยหอนาฬิกาบิ๊กเบ็นนั้นไม่ใช่ชื่อของหอนาฬิกาค่ะ แต่ว่านาฬิกาของที่นี่เขาจะมีความเที่ยงตรงมาก ๆ จึงตั้งชื่อว่าบิ๊กเบ็น ซึ่งแต่เดิมหอนาฬิกาแห่งนี้นั้นเป็นหอนาฬิกาประจำพระราชวังเวสต์มินสเตอร์และในปัจจุบันได้ถูกเปลี่ยนแปลงเป็นรัฐสภาอังกฤษแทน และในตอนที่ยังเป็นหอนาฬิกาประจำราชวังเวสต์มินส์เตอร์นั้นก็ได้รับการขึ้นทะเบียนจากทางยูเนสโกว่าเป็นมรดกโลกไปแล้ว ทำให้เรายังคงสามารถเห็นหอนาฬิกาแห่งนี้ได้อยู่ในปัจจุบัน ด้วยสภาพที่ปกติและมีความสมบูรณ์นั่นเอง
ในช่วงปี 1834 พระราชวังเวสต์มินสเตอร์นั้นได้ถูกไฟไหม้เกือบทั้งหมด และต่อมาในช่วงปี 1840 ก็ได้มีการก่อสร้างพระราชวังใหม่ ซึ่งก็ได้ผู้ออกแบบที่มีชื่อเสีบงมาก ๆ ในยุคนั้นมาทำการออกแบบและในตอนนั้นเองที่หอนาฬิกาบิ๊กเบ็นได้ถือกำเนิดขึ้นมาพร้อม ๆ กับราชวังที่ถูกสร้างใหม่ ทำให้มันกลายเป็นหอนาฬิกาประจำพระราชวังไปโดยปริยายและได้กลายเป็นมรดกโลกในเวลาต่อมานั่นเอง ซึ่งก็ถือว่าเป็นผลพลอยได้ที่การสร้างพระราชวังใหม่ที่มีความยิ่งใหญ่อยู่แล้วยังมีหอนาฬิกาที่มีความใหญ่โตมหึมาอยู่ด้วย โดยได้รับการออกแบบจากนักออกแบบผู้มีชื่อเสียงมาก ๆ ในยุคนั้นเป็นผู้คิดค้นขึ้นมานั่นเอง
โดยหอนาฬิกาแห่งนี้มีความสูงประมาณ 97.5 เมตร หรือหากจะเปรียบเทียบให้เห็นกันชัด ๆ นั่นก็คือการเอารถเมล์ของลอนดอนมาเรียงคต่อกัน 21 คันเลยนั่นเอง ซึ่งก็ถือว่าเป็นความสูงที่ต้องยอมรับว่าสมแล้วที่ได้รับการยกย่องให้เป็นอีกหนึ่งผลงานที่เป็นมรดกโลก ตัวอาคารสร้างจากหินและอิฐ ซึ่งข้อสรุปของผู้ออกแบบหอนาฬิกาแห่งนี้นั้นก็คือ Edmund Beckett Denison ร่วมกับ Sir George Airy และ Edward Dent ที่ได้ทำไว้ในช่วงปี 1851-1852 โดยใช้เวลาประมาณ 2 ปี ในการสร้างจนแล้วเสร็จให้เห็นเป็นรูปเป็นร่างเฉกเช่นในปัจจุบันนั่นเอง
บิ๊กเบ็นนั้นอันที่จริงก็เป็นที่รู้จักในหลาย ๆ ชื่อนะคะอย่าง หอเซนต์สตีเฟน ที่เมื่อปี 2012 นั้น ได้เปลี่ยนแปลงเป็นชื่อหอนาฬิกาอลิซาเบธ ซึ่งแต่งขึ้นเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 อย่างไรก็ตามผู้คนส่วนใหญ่ก็ยังคงรู้จักและมักเรียกกันว่าหอนาฬิกาบิ๊กเบ็นกันอย่างติดปากอยู่ดี และหากใครที่ได้มาเยือนลอนดอนสักครั้งนั้นการมาที่หอนาฬิกาบิ๊กเบ็นก็เป็นตัวบ่งบอกให้รู้ว่าคุณได้มีโอกาสมาถึงประเทศอังกฤษแล้ว
และนี่ก็คือความสวยงามของหอนาฬิกาสี่ด้านที่ใหญ่ที่สุดในโลกหรือที่เรารู้จักกันในชื่อ “บิ๊กเบน” ซึ่งเป็นสถานที่ที่เป็นมรดกโลกที่ใครหลายๆ คน ต่างก็ต้องการที่จะมาชมด้วยตาของตัวเอง เพราะหากเป็นเพียงแค่คำบอกเล่านั้นดูจะเกินจริงเกินไป แต่พอได้มาดูด้วยตาของตัวเองแล้วนั้นคุณก็จะรับรู้ได้เลยว่าสิ่งที่ใครต่อใครเมานั้นก็มีมูลความจริงอยู่ เพราะมันมีความสวยงามตระการตา อีกทั้งยังมีขนาดมหึมาเกินกว่าที่มนุษย์นั้นจะคิดค้นขึ้นมาได้ ดังนั้นหากใครที่กำลังสนใจอยากลองไปเที่ยวต่างแดนเพื่อเยี่ยมชมสิ่งที่เป็นมรดกโลกแบบนี้แล้ล่ะก็บิ๊กเบน ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่น่าไปมาก ๆ เลยล่ะค่ะ
https://dynamic-media-cdn.tripadvisor.com/
https://bungneeraporn.files.wordpress.com/
อ่านต่อที่ เที่ยวต่างประเทศคนเดียว 7 ที่เที่ยว ที่ไปได้ด้วยตัวเอง เดินทางสะดวก ไม่ต้องง้อใคร ตามใจตัวเอง
