เกียวโต
หลังจากที่ญี่ปุ่นได้เปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวได้เข้าประเทศโดยฟรีวีซ่า จึงทำให้ญี่ปุ่นนั้นเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่อยากไปท่องเที่ยว วันนี้เราจะพาทุกคนไปยัง 10 ที่เที่ยว เกียวโต เมืองหลวงเก่า มีเสน่ห์ ไม่ควรพลาด ไปดูกันว่าสถานที่ท่องเที่ยวเกียวโตนั้นมีที่ไหนบ้าง ไปดูกันเลย
1. หมู่บ้านชาวประมง อิเนะ
อีกหนึ่งสถานที่เที่ยว เกียวโต เมืองหลวงเก่า มีเสน่ห์ ไม่ควรพลาด หลังการเปิดประเทศให้เข้าท่องเที่ยวโดยฟรีวีซ่าของประเทศญี่ปุ่นแล้วนั้นก็คือ หมู่บ้านชาวประมง อิเนะ นั่นเอง ซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ของชาวประมง ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของเกียวโต โดยตลอดแนวชายฝั่งของทะเลทางอ่าวอิเนะ นั้นจะมีลักษณะที่โดดเด่นของบ้านที่เขาเรียกกันว่าะ ฟุนายะ เป็นบ้านของชาวประมงที่เรียงรายกันตลอดอ่าวยาวไปถึงห้ากิโลเมตร เป็นบ้านไม้แบบโบราณดังเดิมของชาวประมงญี่ปุ่น โดยส่วนใหญ่จะมีโรงเก็บเรือไว้ด้านล่างเกือบทุกหลังคาเรือน เพื่อเป็นพื้นที่ในการจอดเรือหลังออกเรือหาปลาเสร็จแล้ว และลักษณะบ้านไม้แบบโบราณดั้งเดิมนี้เองที่เป็นเอกลักษณ์และจุดเด่นให้หลาย ๆ คนได้เข้าเยี่ยมชม เพราะดูแล้วแปลกตา ไม่เหมือนใคร ๆ หาดูได้ยาก จึงได้รับความนิยมของกลุ่มนักท่องเที่ยว
2. Toei Studio
อีกหนึ่งสถานที่เที่ยว เกียวโต เมืองหลวงเก่า มีเสน่ห์ ไม่ควรพลาด หลังการเปิดประเทศให้เข้าท่องเที่ยวโดยฟรีวีซ่าของประเทศญี่ปุ่นแล้วนั้นก็คือ สตูดิโอโทเออิ อุซุมาสะ อิกามูระ หรือ Toei Studio เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมได้ เพื่อชมสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์และละคร โดยสตูดิโอแห่งนี้เป็นการจำลองสถานที่ที่สร้างมาเป็นเมืองโบราณย้อนยุคเพื่อใช้เป็นฉากในการแสดงของนักแสดงทั้งละครและภาพยนตร์ต่าง ๆ ที่มีฉากเป็นบ้านหรือสถานที่โบราณ และนักท่องเที่ยวสามารถที่จะเดินชม หรือร่วมแต่งกายชุดญี่ปุ่นโบราณเพื่อเก็บภาพบรรยากาศตามจุดต่าง ๆ เป็นภาพที่ระลึกได้ และหากไปแล้วอาจโชคดีได้เข้าร่วมเป็นตัวประกอบในฉากที่เขากำลังแสดงกันอยู่ก็เป็นไปได้
3. Byodoin Temple
อีกหนึ่งสถานที่เที่ยว Kyoto เมืองหลวงเก่า มีเสน่ห์ ไม่ควรพลาด หลังการเปิดประเทศให้เข้าท่องเที่ยวโดยฟรีวีซ่าของประเทศญี่ปุ่นแล้วนั้นก็คือ Byodoin Temple วัดเบียวโดอิน เป็นวัดที่เก่าแก่โบราณสมัยเฮฮัน ซึ่งมีมาแล้ว หนึ่งพันปี เป็นวัดที่ได้รับให้เป็นมรดกโลกจากยูเนสโก และยังเป็นวัดที่มีชื่อเสียงที่โด่งดังของเมืองอุจิ แห่งเกียวโต จุดเด่นของวัดคือวิหารนั้นสร้างด้วยไม้สีแดง ซึ่งเป็นโครงสร้างเดิมในอดีต บนสันของหลังคามีนกโฮโอหรือเรียกกันว่าฟีนิกซ์ สองตัวยืนหันหน้าเข้าหากัน และวิหารนี้ตั้งอยู่ในกลางของวัดโดยมีบึงน้ำห้อมล้อม มีสะพานข้ามไปหาได้ โดยบริเวณวัดนั้นค่อนข้างกว้างขวาง ยังมีจุดที่น่าสนใจคือ พิพิธภัณฑ์ Hoshokanโดยจัดแสดงสิ่งของโบราณ ตลอดจนมีร้านจำหน่ายเครื่องดื่มชาต่าง ๆ และทัศนียภาพที่สวยงามของที่นี่ บรรยากาศสวยงามด้วยต้นไม้ทั้งเล็กใหญ่ดูแล้วอบอุ่น และร่มรื่น
4. Nijo Castle
อีกหนึ่งสถานที่เที่ยว เกียวโต เมืองหลวงเก่า มีเสน่ห์ ไม่ควรพลาด หลังการเปิดประเทศให้เข้าท่องเที่ยวโดยฟรีวีซ่าของประเทศญี่ปุ่นแล้วนั้นก็คือ Nijo Castle ปราสาทนิโจ เป็นปราสาทที่มีมาแต่โบราณ เป็นปราสาทที่โทคุงาวะ อิเอยาสุ เป็นผู้ให้การก่อตั้ง ซึ่งเป็นโชกุนคนแรกของโทคุงาวะเป็นอีกหนึ่งมรดกโลกจากยูเนสโก ซึ่งปราสาทได้ตกแต่งได้อย่างสวยงามตามฉบับสมัยโบราณ และปัจจุบันก็ยังมีความสวยงามและหาดูได้ยากซึ่งในปราสาทมีจุดที่น่าสนใจในการเยี่ยมชมหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นประตูทางเข้าปราสาท หอสังเกตการณ์ พระราชวัง และสวนเซริวเอ็น และยังมีหอศิลป์ที่มีการจัดแสดงจิตรกรรมฝาผนังที่สวยงาม โดยตัวปราสาทในแต่ละจุดนั้นได้มีการบูรณะและซ่อมแซมเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมได้อย่างประทับใจ
5. ย่าน Gion
อีกหนึ่งสถานที่เที่ยว Kyoto เมืองหลวงเก่า มีเสน่ห์ ไม่ควรพลาด หลังการเปิดประเทศให้เข้าท่องเที่ยวโดยฟรีวีซ่าของประเทศญี่ปุ่นแล้วนั้นก็คือ เสน่ห์แห่งความโบราณของบ้านและอาคารไม้โบราณที่เป็นย่านที่มีร้านค้า ร้านน้ำชา และมีการบริการของเกอิชาที่ใส่ชุดกิโมโนในการมาบริการให้กับนักท่องเที่ยว ซึ่งเกอิชานั้นเป็นหญิงสาวที่คอยบริการผู้ซึ่งมีศิลปะและเชี่ยวชาญด้านการดูแลและบริการในร้านน้ำชาซึ่งเป็นอาชีพที่ทำสืบกันมาแต่สมัยโบราณ ย่านนี้จะอยู่ใกล้กับศาลเจ้ายาซากะ และแม่น้ำคาโมะ ซึ่งเป็นถนนสายหลักที่มีร้านค้า ร้านน้ำชาและร้านอาหารจำนวนมากโดยแต่ละร้านนั้นก็จะมีการแสดงของเกอิโกะ และไมโกะที่สวยงามซึ่งเป็นที่ชื่นชอบและได้รับความนิยมของนักท่องเที่ยวซึ่งย่านนี้ส่วนใหญ่จะคึกคักในช่วงเย็นหลังพระอาทิตย์ตกดิน
6. Nanzenji
อีกหนึ่งสถานที่เที่ยว Kyoto เมืองหลวงเก่า มีเสน่ห์ ไม่ควรพลาด หลังการเปิดประเทศให้เข้าท่องเที่ยวโดยฟรีวีซ่าของประเทศญี่ปุ่นแล้วนั้นก็คือ Nanzenji เป็นวัดนิกายเซ็นของศาสนาพุทธ ตั้งอยู่เชิงเขากาชิยะมะ เป็นวัดที่มีอาณาบริเวณที่กว้าง และในบริเวณวัดก็ยังเป็นที่ตั้งของ
วัดอื่น ๆ อีกมากมาย โดยวัดนี้ได้สร้างขึ้นมาเมื่อศตวรรษที่ 13 โดยแต่เดิมนั้นจักรพรรดิคาเมยามะต้องการสร้างเพื่อเป็นที่พักอาศัยในช่วงบั้นปลายของชีวิต และภายหลังจึงเป็นวัดนันเซ็นจิ และเมื่อเกิดสงครามในสมัยมุโรมาชิ โครงสร้างของสถานที่นี้ได้ถูกทำลาย จึงได้มีการบูรณะใหม่ตามที่เห็นในปัจจุบัน และไฮไลท์ของที่นี่ก็น่าจะเป็นอาคารไม้ที่มีขนาดใหญ่โดยตั้งอยู่ด้านหน้าสุดคือประตูซันม่อน ที่จะขึ้นไปด้านบนเพื่อชมทิวทัศน์ภายในวัดได้อย่างสวยงาม
7. Ryoanji Temple
อีกหนึ่งสถานที่เที่ยว เกียวโต เมืองหลวงเก่า มีเสน่ห์ ไม่ควรพลาด หลังการเปิดประเทศให้เข้าท่องเที่ยวโดยฟรีวีซ่าของประเทศญี่ปุ่นแล้วนั้นก็คือ Ryoanji Temple เป็นวัดสมัยเฮอัน ที่มีลักษณะที่โดดเด่นในเรื่องของสวนหินที่สวยงามมากในเกียวโต และยังเป็นสวนหินที่สวยงามอันดับต้น ๆ ของประเทศกันเลยทีเดียวทำให้นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่อยากมาเช็คอิน และมาดูถึงความสวยงามของสวนที่มีเอกลักษณ์ในการออกแบบที่โดดเด่นและแตกต่างจากที่อื่นเพราะในลานสวนหินนั้นจะตกแต่งไปด้วยหินที่วางไว้จำนวน 15 ก้อน แต่คนโดยส่วนใหญ่ก็นับได้ไม่ถึง 15 ก้อน ดังนั้นจึงเป็นกิจกรรมที่ชวนให้สนุก ผู้คนหลายคนต่างมานั่งจับจ้องกับการนับก้อนหินให้ครบ หากใครนับก้อนหินให้ครบ 15 ก้อนแล้วจะเป็นผู้ที่บรรลุหลักธรรมฌาณขั้นสูงสุด ซึ่งเขาเชื่อกันว่าอย่างนั้นนอกจากสวนหินที่สวยงามแล้ว สถานที่แห่งนี้ยังมีบ่อน้ำที่มีขนาดใหญ่ และมีสุสานของที่รู้จักในนาม สุสานแห่งจักรพรรดิทั้งเจ็ด และที่วัดแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก้อีกด้วย
8. ย่านริมน้ำ Pontocho
อีกหนึ่งสถานที่เที่ยว Kyoto เมืองหลวงเก่า มีเสน่ห์ ไม่ควรพลาด หลังการเปิดประเทศให้เข้าท่องเที่ยวโดยฟรีวีซ่าของประเทศญี่ปุ่นแล้วนั้นก็คือ ย่านริมน้ำ Pontocho เป็นพื้นที่สถานที่ท่องเที่ยวแห่งการกิน เพราะตลอดเส้นทางของถนนชิโจ ไปจนถึงซันโจ ซึ่งเป็นเส้นทางที่ไม่ใหญ่มาก จะคู่ขนานไปกับแม่น้ำคาโมะ ซึ่งใครหลายคนเมื่อมาเที่ยวที่เกียวโตก็จะนิยมมาที่ย่านริมน้ำนี้ เพราะที่นี่นั้นมีร้านค้า ร้านอาหาร ตลอดผับ บาร์ให้นั่งกิน จำนวนมากมีให้เลือก นั่งกินลมชมวิวบรรยากาศริมน้ำ ยิ่งถ้าเป็นช่วงกลางคืนนั้น ที่นี่จะเป็นที่คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวที่เข้ามานั่งกินและเดินเล่นกันริมฝั่งแม่น้ำ และอาหารที่ขึ้นชื่อก็เห็นจะเป็นยากิโทริ อาหารปิ้งย่างสไตล์ดั้งเดิม
9. Sanjusangendo Temple
อีกหนึ่งสถานที่เที่ยว เกียวโต เมืองหลวงเก่า มีเสน่ห์ ไม่ควรพลาด หลังการเปิดประเทศให้เข้าท่องเที่ยวโดยฟรีวีซ่าของประเทศญี่ปุ่นแล้วนั้นก็คือ Sanjusangendo Temple เป็นวัดที่คนทั่วไปรู้จักในนาม วัดเจ้าแม่กวนอิม 1000 มือ ซึ่งในวัดจุดเด่นก็คือเจ้าแม่กวนอิมนั่นเอง ซึ่งมีจำนวนทั้งหมดถึง 1,001 องค์ด้วยกันซึ่งวัดนี้ได้ค้นพบเมื่อปี ค.ศ. 1164 และวัดเกิดไฟไหม้ทำให้มีความเสียหาย จึงได้มีการบูรณะซ่อมแซมใหม่อย่างที่เห็นในปัจจุบัน และจุดเด่นอีกหนึ่งอย่างที่ดึงดูดให้ผู้คนเข้าเยี่ยมชมนั้นก็คือ อาคารไม้ที่มีความยาวมากที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งการออกแบบของตัวอาคารนั้น เป็นแบบโบราณมีความยาว 120 เมตร และมีองค์เจ้าแม่กวนอิมวางเรียงรายอยู่จำนวนมากประดิษฐาน
10. Fushimi Inari Shrine
อีกหนึ่งสถานที่เที่ยว เกียวโต เมืองหลวงเก่า มีเสน่ห์ ไม่ควรพลาด หลังการเปิดประเทศให้เข้าท่องเที่ยวโดยฟรีวีซ่าของประเทศญี่ปุ่นแล้วนั้นก็คือ เป็นศาลเจ้าชินโตของเทพอินาริ ซึ่งเป็นเทพแห่งกสิกรรม ใครที่มาเที่ยวที่นี่ก็จะเป็นการมาสักการะขอพรจากเทพ โดยเป็นศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากเมื่อมาเที่ยวที่เกียวโตแล้วต้องได้มาที่ศาลเจ้าแห่งนี้ โดยจุดเด่นที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่ก็คือ ตัวของศาลเจ้านั้นตั้งอยู่บนพื้นที่เชิงเขาโดยมีระดับความสูงเหนือน้ำทะเลถึง 233 เมตร บนภูเขาอินาริ โดยอีกหนึ่งไฮไลท์นั้นก็คือ ประตูที่มีเสาโทริอิสีแดงที่เรียงต่อกันข้างศาลจำนวนมาก ให้นักท่องเที่ยวได้เดินลอดไปตามเส้นทางของเสา บรรยากาศในการเดินลอดไปกับเสาโทริอิสีแดงให้ความรู้สึกตื่นตาตื่นใจ และน่าทึ่งกับจำนวนเสาที่ใหญ่และมีจำนวนมากนั่นเอง
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 10 ที่เที่ยว เกียวโต เมืองหลวงเก่า มีเสน่ห์ ไม่ควรพลาด หลังจากที่ญี่ปุ่นได้เปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวได้เข้าประเทศโดยฟรีวีซ่า จึงทำให้ญี่ปุ่นนั้นเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่อยากไปท่องเที่ยว ซึ่งที่เกียวโตอดีตเมืองหลวงนั้นก็มีแหล่งที่เที่ยวที่น่าดึงดูดให้ไปเที่ยวนั้นหลายที่ด้วยกัน ซึ่งเป็นเมืองแห่งเสน่ห์ด้านวัฒนธรรมโบราณและประวัติศาสตร์ที่น่าค้นหา เตรียมวางแผนเที่ยวกันยาว ๆ ไปเลย
เครดิตรูป
อ่านต่อที่ 10 ที่เที่ยวในมาเลเซีย พิกัดฮิตน่าไป เดินทางใกล้ไทยนิดเดียว
